ฟิล์มติดรถยนต์มีวิธีการดูแลรักษายังไง ให้สามารถใช้ได้นานๆ

สิ่งจำเป็นที่มีในปัจจุบันที่รถยนต์ทุกคันต้องมีก็คือ ฟิล์มติดรถยนต์ ซึ่งฟิล์มติดรถยนต์ในแต่ละยี่ห้อ แต่ละประเภท ก็จะมีระยะเวลาการรับประกันฟิล์มต่างกันแล้วแต่เงื่อนไขของโรงงานผู้ผลิต ฟิล์มทั่วไปก็จะมีการรับประกันประมาณ 5-7 ปีตามมาตรฐานของโรงงานผู้ผลิตฟิล์มที่มาจากประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ก็มีในบางกรณีฟิล์มยี่ห้อใหม่ๆมาทำการตลาดก็จะมีการรับประกันตั้งแต่ 10-15 ปีขึ้นไปซึ่งในการเลือกฟิล์มติดรถยนต์ไม่ควรดูแค่การรับประกันที่ยาวเท่านั้นแต่ควรพิจารณาถึงความมั่นคงและการทำการตลาดของผู้จัดจำหน่ายว่ามีประสบการณ์และทำธุรกิจนี้มายาวนานแค่ไหน และการรับประกันฟิล์มเป็นการรับประกันตรงโดยโรงงานผู้ผลิตหรือเป็นการรับประกันของผู้แทนจำหน่าย เพราะในกรณีที่ผู้แทนจำหน่ายยกเลิกการจำหน่ายหรือปิดกิจการไปเราก็ยังสามารถถามหาการรับประกันได้จากโรงงานผู้ผลิตโดยตรง ซึ่งจะสร้างความมั่นใจให้กับเราได้มากกว่าในการคุณภาพของสินค้าและการบริการหลังการขาย โดยผู้จัดจำหน่ายฟิล์มรายใหญ่ๆในประเทศไทยปัจจุบันล้วนมีประสบการณ์ในการจัเจำหน่ายฟิล์มมาแล้วไม่น้อยกว่า 20-25 ปีทุกเจ้า โดยในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมามีฟิล์มแบรนด์ใหม่ๆเกิดขึ้นมากมายและก็มีมากมายที่หายไปจากตลาดโดยผู้บริโภคไม่ได้รับการรับประกันแม้ตอนติดตั้งจะมีบัตรรับระบุระยะเวลารับประกัน 10-15 ปี แต่เมื่อบริษัทและตัวแทนที่จัดจำหน่ายไม่สามารถติดต่อได้แล้วก็ไม่สามารถไปถามหาการรับประกันจากใครได้

ในส่วนของการดูแลฟิล์มติดรถยนต์ไม่ถูกวิธีก็อาจจะทำให้อายุการรับประกันฟิล์มลดลงได้ด้วยเช่นกัน  วิธีดูแลหลังติดฟิล์มติดรถยนต์หลังติดตั้งกันดีกว่า

เวลาการติดตั้งฟิล์มติดรถยนต์นั้นจะมีการใช้แชมพูผสมน้ำในการติดตั้งเพื่อให้ช่างสามารถเลื่อนฟิล์มได้ก่อนรีดเพื่อให้กาวเกิดแรงกดติดกับกระจก โดยการฉีดลงไปบนกระจกรถยนต์ที่ติดตั้งพร้อมกับบนกาวของแผ่นฟิล์มกรองแสง เพื่อให้สามารถเลื่อนขยับฟิล์มกรองแสงได้ตามความต้องการ เสร็จแล้วจึงรีดออกด้วยเครื่องมือรีดน้ำแบบต่างๆ  ซึ่งอาจจะทำให้เกิดน้ำขังอยู่ระหว่างแผ่นฟิล์มกับกระจกได้ ทำให้มองดูไม่ชัดเจน ถือเป็นเรื่องปกติ อาการเหล่านี้จะหายไปเอง ภายในเวลา 4-12 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความหนาของฟิล์ม และสภาพอากาศ  ซึ่งในช่วงยะระเวลาระหว่าง 4-12 สัปดาห์นี้ ไม่ควรติดตั้งอุปกรณ์ที่มีน้ำหนักผ่านจุ๊บสูญญากาศเช่นที่ยึดโทรศัพท์ หรือกล่องบันทึกติดรถยนต์ที่มีน้ำหนักมาก

หลังจากติดตั้งฟิล์มติดรถยนต์แล้วมีข้อควรระวังดังนี้

  1. ใช้รถยนต์ตามปกติถ้าเลือกที่จะจอดกลางแจ้งได้ ในช่วง 1-4 สัปดาห์แรกจะสามารถช่วยให้ฟิล์มเซทตัวได้เร็วมากขึ้น
  2. ห้ามเช็ดล้างด้วยน้ำยาล้างกระจกที่มีส่วนผสมของสารแอมโมเนีย เช็ดทำความสะอาดฟิล์มโดยเด็ดขาด น้ำยาแอมโมเนียจะทำให้ชั้นเคลือบแข็งหรือ Hard Coat ของชั้นฟิล์มเสื่อม และลดอายุการใช้งานของฟิล์มกรองแสงลดลง
  3. ห้ามใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ , ผ้าหยาบ , ขนแปรง , สก็อตซ์ไบรต์ หรือวัสดุอื่นๆ เช็ดลงบนเนื้อฟิล์มติดรถยนต์ โดยปกติตัวเนื้อฟิล์มจะถูกเคลือบด้วยสารกันรอยขีดข่วนอยู่แล้ว เนื้อวัสดุที่หยาบอาจจะทำให้เกิดความเสียหายแก่ฟิล์มติดรถยนต์ได้ แนะนำให้เช็ดด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์ชุบน้ำ เช็ดเบาๆลงบนแผ่นฟิล์ม
  4. งดใช้ระบบไล่ฝ้าเป็นเวลา 30 วันหลังจากติดตั้งฟิล์มรถยนต์ เพราะการใช้ระบบไล่ฝ้าจะเกิดความร้อนบนเส้นไล่ฝ้าที่กระจกหลัง หากฟิล์มยังไม่แห้งดียังมีน้ำอยู่ระหว่างชั้นฟิล์มและเส้นไล่ฝ้าอาจเกิดความเสียหายกับฟิล์มติดรถยนต์ได้
  5. ไม่ควรใช้อุปกรณ์ที่มีตัวดูดศูนย์ญากาศติดโดยตรงกับฟิล์มติดรถยนต์ เพราะตั้วดูดศูนย์ญากาศทำมาจากยางจะสะสมความร้อนและเมื่อบวกกับน้ำหนักของโทรศัพท์อาจจะดึงให้ฟิลืมพองตัวได้  หากจำเป็นต้องใช้ควรติดสติ๊กเกอร์ศูนย์ยากาศลงบนกระจกก่อนติดตัวดูดศูนย์ญากาศและไม่ควรติดตัวดูดศูนย์ญากาศทิ้งไว้เมื่อต้องจอดรถกลางแดด
  6. เลือกกล้องบันทึกติดรถยนต์ที่ใช้ขาแขวนกับกระจกมองหลัง หรือกล่องติดรถยนต์ที่ใช้ตัวยึดเป็นกาวยาง 2 หน้า จะมีความทนทานมากกว่ากล่องที่ใช้ตัวยึดเป็นแบบตัวดูดศูนย์ญากาศและยังไม่ทำอันตรายต่อฟิล์มติดรถยนต์ด้วย

เพียงเท่านี้เราก็จะสามารถใช้ฟิล์มติดรถยนต์ได้ยาวนานตามระยะเวลารับประกันโดยไม่ต้องเสียเวลาไปเคลมระหว่างระยะเวลารับประกัน

สิ่งหนึ่งที่ต้องรู้คือการเคลมฟิล์มถึงแม้จะฟรีหรือจ่ายแค่ค่าแรงไม่กี่บาทแต่ก็มีความเสี่ยงในเรื่องของเส้นไล่ฝ้ากระจกหลังที่อาจจะเกิดการเสียหายได้หรือแม้แต่ความเสียหายต่ออุปกรณ์ภายในรถระหว่างการติดตั้ง

เพราะการลอกฟิล์มนั้นต้องมีการล้างกาวออกจากกระจกให้หมดการการติดตั้งใหม่ซึ่งบ้างครั้งอาจมีการน้ำยาเพื่อสลายคราบกาวด้วย